เพนเน่วอดก้า Penne alla Vodka

image_pdfดาวน์โหลดไฟล์ PDF

Last Updated on August 26, 2023




เพนเน่วอดก้า

เพนเน่วอดก้า Penne Alla Vodka

เพนเน่วอดก้า Penne Alla Vodka หากเพื่อนๆ กำลังมองหาสูตรเพนเน่วอดก้าเด็ดๆ แอดเกรตาขอบอกว่า …บิงโก… มาถูกที่แล้วค่ะ ถูกต้องแล้วค่ะแอดเกรตานำเสนอเมนูเพนเน่วอดก้า สูตรดั้งเดิมสำหรับ เพนเน่อัลลาวอดก้า (Penne alla Vodka) โดดเด่นบน Epicurious ด้วยวิธีทำที่เรียบง่าย แต่รสชาติแสนอร่อย ลองคิดดูพาสต้าสไตล์สไตล์อเมริกัน ซึ่งแอดเกรตาลองทำมาแล้วอร่อยมากๆเลยค่ะ อยากแชร์สูตรเลย แค่คิดก็น้ำลายไหลแล้วแม๊ บรรยายความน่ากินมามากโข มาทำเพนเน่วอดก้าเจ้าค่ะ อร่อยเด็ดเมนูประจำตัว มาค่ะดาวน์โหลดสูตร มือขวาควงตะหลิว มือซ้ายจับกระทะ สาวเท้าก้าวเข้าครัวไปกับเมนูเพนเน่วอดก้ากันเลยค่ะ




สูตรเพนเน่วอดก้า
มะเขือเทศพลัม 1 กระป๋อง (35 ออนซ์) พร้อมของเหลว
เพนเน่ 1 ปอนด์
น้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิ้น 1/4 ถ้วย
กระเทียม 10 กลีบ ปอกเปลือก
พริกแดงบดละเอียด
วอดก้า 1/4 ถ้วย
เฮฟวี่ครีม 1/2 ถ้วยตวง
เนยจืดหรือน้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ
ผักชีฝรั่งสดสับ 2-3 ช้อนโต๊ะ
3/4 ถ้วย พาเมซานชีส ขูดสด
เกลือ

 

วิธีทำเพนเน่วอดก้า
ต้มน้ำเกลือ 6 ควอร์ตในหม้อขนาด 8-quart ด้วยไฟแรง
ใส่มะเขือเทศกับของเหลวในเครื่องเตรียมอาหาร ปั่นมะเขือเทศโดยใช้โดยใช้เบอร์แรงจนสับละเอียด
เติมเพนเน่ลงในน้ำเดือด ปรุงพาสต้าในหม้อกึ่งปิดสนิทเป็นเวลา 8 ถึง 10 นาที คนเป็นครั้งคราว
ขณะปรุงพาสต้า ให้อุ่นน้ำมันมะกอกบนไฟร้อนปานกลางในกระทะใบใหญ่ ใช้มีดกดกลีบกระเทียมแล้วใส่ในน้ำมันร้อน ปรุงอาหารประมาณ 3 นาทีจนกระเทียมมีสีน้ำตาลอ่อน
เลื่อนมะเขือเทศลงในกระทะอย่างระมัดระวัง นำไปต้ม ปรุงรสเล็กน้อยด้วยเกลือและพริกไทยแดงบดพอประมาณ ต้ม 2 นาที เทวอดก้าลงไป ลดความร้อนลง และเคี่ยวจนพาสต้าพร้อม
นำกลีบกระเทียมออกจากซอสแล้วเทครีมลงไป ใส่เนยหรือน้ำมัน 2 ช้อนโต๊ะ ผสมซอสและพาสต้า
โรยพาร์สลีย์ลงบนพาสต้าแล้วต้มจนซอสลดลงพอที่จะเกาะเส้นพาสต้าได้
นำหม้อออกจากเตา โรยชีส 3/4 ถ้วยลงบนพาสต้าแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน เสิร์ฟทันทีพร้อมชีสเพิ่มเพื่อปรุงรส ทานให้อร่อยนะคะ





pasta

ขอขอบคุณข้อมูล – https://www.tasteatlas.com/penne-alla-vodka/recipe

ประวัติเพนเน่วอดก้า

แม้ว่า penne alla vodka จะได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงปลายทศวรรษ 1980 แต่ก็มีทฤษฎีอย่างน้อยครึ่งโหลเกี่ยวกับการประดิษฐ์ของพวกเขา Pasquale Bruno Jr. ผู้เขียน “The Ultimate Pasta Cookbook” อ้างว่า penne alla vodka ถูกประดิษฐ์ขึ้นที่ร้านอาหาร Dante ในเมือง Bologna ประเทศอิตาลี นักประวัติศาสตร์ด้านอาหารบางคนอ้างว่าผู้แต่งจานนี้คือผู้ชายชื่อ James Doty บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ในทางกลับกัน ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายชาวอเมริกัน Paula Franzese ให้เหตุผลว่า Luigi Franzese พ่อของเธอ (เกิดที่ Naples ในปี 1931) คือคนที่เตรียมอาหารจานนี้ขึ้นมาเป็นคนแรกที่ร้าน Orsini ซึ่งเป็นที่นิยมในนิวยอร์กซิตี้ในปี 1970 Luigi Franzese เรียกมันว่า Penne alla Russia

ซึ่งหมายถึงการมีอยู่ของวอดก้าในซอส ตำราอาหาร “The Williams-Sonoma Essentials of Italian” ระบุว่ามันถูกคิดค้นโดยเชฟชาวโรมันในปี 1980 สำหรับบริษัทวอดก้าที่ต้องการเพิ่มความนิยมของแบรนด์ในอิตาลี ในหนังสือของเธอปี 1984 “Food for Friends” Barbara Kafka เขียนว่า penne alla vodka เป็นเทรนด์ในอิตาลีก่อนที่ Joannas Restaurant ในนิวยอร์กจะใส่ลงในเมนูและทำให้พวกเขาเป็นที่นิยมทั่วทั้งสหรัฐอเมริกา ในที่สุดก็มีเรื่องราวเกี่ยวกับภรรยาของนักการทูตชาวอเมริกันสองคนที่พบกันที่กรุงโรมและเขียนตำราอาหารซึ่งรวมถึงสูตรอาหารจานนี้ด้วย



วัตถุดิบเพนเน่วอดก้า
tomato
มะเขือเทศ (Tomato) นอกจากจะเป็นผลไม้ที่นิยมรับประทานกันมากที่สุดในโลกแล้ว ประโยชน์ของมะเขือเทศยังมีอยู่มากมาย เพราะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น วิตามินซี วิตามิเอ วิตามินเค วิตามินพี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส และธาตุเหล็ก โดยมะเขือเทศขนาดปานกลางนั้นจะมีปริมาณของวิตามินซีครึ่งหนึ่งของส้มโอทั้งลูก และมะเขือเทศหนึ่งผลมีปริมาณวิตามินเอที่ร่างกายต้องการจำนวน 1 ใน 3 ของวิตามินเอที่ร่างกายต้องการต่อวันเลยทีเดียว
penne
เปนเน (Penne) หรือบางครั้งสะกดว่า เพนเน่ เป็นพาสตาชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นท่อนขนาดกลาง ปลายตัดเฉียงทั้งสองด้าน ในประเทศอิตาลีมีการผลิตเปนเนเป็น 2 ชนิด คือ แบบเกลี้ยงและแบบมีร่อง โดยปกติแล้วเปนเนจะปรุงและเสิร์ฟคู่กับซอสเปสโตในรูปแบบสลัด
olive oil
น้ำมันมะกอก (Olive Oil) คือ น้ำมันธรรมชาติที่สกัดจากผลของต้นมะกอก สารจากทางธรรมชาติในน้ำมันมะกอกมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย ทั้งช่วยลดระดับไขมันเลวในร่างกาย และช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ น้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิน (extra virgin) เป็นน้ำมันมะกอกที่มีสีเขียวเข้ม นำมาจากการบีบเอาน้ำมันออกมาจากมะกอกสดๆ มีราคาสูง สามารถรับประทานแบบสดๆ หรือนำมาเป็นน้ำสลัดได้ หากนำน้ำมันมะกอกประเภทนี้มาประกอบอาหารโดยผ่านความร้อน จะทำให้น้ำมันมะกอกสูญเสียคุณค่าทางโภชนาการไป และจะเปลี่ยนเป็นไขมันชนิดที่ไม่ดีแทน
garlic
กระเทียม (Garlic) ช่วยเพิ่มความอยากอาหารและเพิ่มความสามารถในการย่อยอาหารของร่างกาย กระเทียมสดช่วยกระตุ้นน้ำย่อยในกระเพาะอาหารให้หลั่งออกมาย่อยอาหารในปริมาณมากขึ้น และเสริมการทำงานของเอนไซม์ที่ช่วยย่อยสารอาหารจำพวกโปรตีน เช่น โปรตีนจากเนื้อสัตว์ ช่วยย่อย
vodka
วอดกา (Vodka) แต่เดิมเขียนว่า “Vada” เป็นภาษารัสเซีย แปลว่า น้ำแห่งชีวิต ต่อมามีการเพี้ยนไปเป็น “Vodka” เป็นเหล้าสีขาวใสกลั่นจากส่วนผสมหมักอย่างกากน้ำตาลของมันฝรั่ง ธัญพืช (โดยมากเป็นข้าวไรย์หรือข้าวสาลี) มีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 35% – 95% มีกลิ่นเพียงเล็กน้อยจนแทบไม่รู้สึก เนื่องจากผ่านกรรมวิธีในการกำจัดกลิ่นออก ดื่มแล้วไม่มีกลิ่นติดค้างในคอ ในสมัยนี้มีการแต่งกลิ่นเพิ่มเข้าไป เช่นกลิ่น ผลไม้ หรือสมุนไพรต่าง ๆ
heavy cream
ดับเบิ้ครีม (Heavy Cream) เป็นครีมที่มีปริมาณไขมันอยู่ที่ 36%- 40% นอกจากครีมที่ทำจากนมแล้ว(ที่เรียกกันอีกชื่อว่า”ครีมแท้”) ยังมีครีมอีกชนิดหนึ่งคือ “ครีมเทียม” โดยครีมเทียม เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้ทำจากนมโดยใช้ไขมันชนิดอื่นทดแทนไขมันเนย หรืออาจจะผสมไขมันเนยด้วยแต่ผสมในปริมาณที่น้อยมาก
salt
เกลือ (Salt) หรือเกลือโซเดียมนั้นมีแร่ธาตุหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย หากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมก็อาจส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกาย ดังนี้ ป้องกันภาวะความดันโลหิตต่ำ,ป้องกันภาวะขาดน้ำ และป้องกันการขาดไอโอดีน แต่ต้องรับประทานในขนาดที่เหมาะสมต่อวันมิเช่นนั้นจะเดิดโทษต่อร่างกาย มากกว่าได้ประโยชน์
butter
เนย (Butter) เป็นไขมันสัตว์ที่ถูกนำไปผ่านกระบวนการแยกออกมาจากน้ำนมหรือครีม ส่วนใหญ่จะใช้น้ำนมจากสัตว์ เช่น วัว ควาย แพะ หรือแกะ กระบวนการผลิตเนย เริ่มจากการนำน้ำนมไปเข้าเครื่องจักรเพื่อปั่นหรือเหวี่ยงด้วยความเร็วสูง เมื่อเหวี่ยงจนได้ที่จะได้วัตถุดิบออกมา 2 ชนิด คือ บัตเตอร์มิลค์ เป็นส่วนของน้ำสีขาวขุ่น และเนย เป็นส่วนของก้อนไขมันสีเหลืองๆ ซึ่งก็คือเนยแท้ หรือที่เรียกกันติดปากว่า ‘เนยสด’ นั่นเอง
parsley
พาร์สลีย์ (Parsley) เป็นพืชที่มีหน้าตาคล้ายผักชี มีทั้งใบหยักและใบเรียบ มีรสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ จึงนิยมนำปรุงอาหารหลากหลายเมนู โดยเฉพาะอาหารตะวันตก ซึ่งนอกจากเรื่องรสชาติและกลิ่นที่โดดเด่นแล้ว พาร์สลีย์ยังมีสรรพคุณที่อาจช่วยในการบำรุงกระดูก ดวงตา หัวใจ และป้องกันโรคมะเร็งด้วย




image_pdfดาวน์โหลดไฟล์ PDF